• Krungthai COMPASS เผยอัตราเงินเฟ้อเดือน มี.ค. 68 อยู่ที่ 0.84% คาดเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอลงระยะข้างหน้า ท่ามกลางแรงกดดันจากสงครามการค้า ประเมินว่า ทิศทางเงินเฟ้อของไทยระยะข้างหน้ายังมีโมเมนตัมที่อ่อนแรงลง ปัจจัยหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศซึ่งมีสัญญาณแผ่ว และทิศทางราคาพลังงานที่ลดลง โดยอุปสงค์ในประเทศยังคงเปราะบาง สะท้อนจากดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ในเดือน ก.พ. 68 ที่ปรับลดลงทั้งหมวดเครื่องจักร ยานพาหนะ และก่อสร้าง ส่งผลให้ดัชนีโดยรวมหดตัว 7.7%YoY
Home CIVIL เตรียมเข้ารับงานใหม่ 18 โครงการ ดัน Backlog โตตามเป้า 20,000 ล.
CIVIL เตรียมเข้ารับงานใหม่ 18 โครงการ ดัน Backlog โตตามเป้า 20,000 ล.

CIVIL เตรียมเข้ารับงานใหม่ 18 โครงการ ดัน Backlog โตตามเป้า 20,000 ล.

CIVIL ชูกลยุทธ์พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน เตรียมส่งมอบงานก่อสร้าง 6 โครงการ มูลค่ารวม 111.28 ล้านบาท เดินหน้าแผนการเข้ารับงานเพิ่ม 18 โครงการ มูลค่ารวม 13,275 ล้านบาท หนุน Backlog เติบโตตามเป้า 20,000 ล้านบาท ตอกย้ำกลยุทธ์การดำเนินงานท่ามกลางต้นทุนผันผวน ด้านงบไตรมาส 1/2566 รายได้รวม 1,447.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 47.99 ล้านบาท

 

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีขึ้น โดยมีแผนเตรียมส่งมอบงานประเภททางหลวง จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 111.28 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีความคืบหน้างานก่อสร้างและทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา (สัญญาที่ 2-1 สีคิ้ว – กุดจิก) ความคืบหน้า 99%, โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย สัญญา 4-7 (สระบุรี-แก่งคอย) ความคืบหน้า 48%, งานก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 1 ความคืบหน้า 29% เป็นต้น

 

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเตรียมเข้ารับงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในปี 2566 จำนวนทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่ารวม 13,275 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานที่ได้เซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อยจำนวน 14 โครงการ อาทิ งานถนน, งานขุดคลองระบายน้ำ และ งานสนามบิน มูลค่ารวม 1,476 ล้านบาท และ งานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ งานถนน และ งานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง มูลค่ารวม 11,799 ล้านบาท คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) เติบโตที่ระดับ 20,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้

 

“แม้ขณะนี้จะมีเหตุการณ์สำคัญในระดับประเทศ อาทิ การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหลายด้าน อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีความมั่นใจในการดำเนินงานท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว  จากปริมาณงานในมือที่บริษัทเป็นผู้ชนะการประมูล คาดว่าสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้รอการอนุมัติงบประมาณครั้งใหม่ ควบคู่กับการทยอยส่งมอบงานโครงการสะท้อนต้นทุนเดิม อีกทั้งบริษัทมีแผนการดำเนินงานเพื่อรับมือกับความผันผวนของต้นทุนการก่อสร้าง โดยมุ่งเน้นการร่วมงานกับผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor) ที่แข็งแกร่งทั้งด้านพื้นที่และมีความสามารถเพื่อช่วยลดความเสี่ยง, มีความสามารถในการจัดการทรัพยากรที่มีคุณภาพ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีก่อสร้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดการใช้แรงงาน ประกอบการมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับหลายบริษัทในอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งบริษัทอีกด้วย” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว

 

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,447.09 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,649.42 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 47.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40.32 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 64.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565 ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 48.39 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น 9.27% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 8.49%